นักลงทุนสัมพันธ์ นักลงทุนสัมพันธ์
Brand
Location
แสดงข่าวล่าสุด

22 February 2021 ‘สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม’ กับภารกิจเคียงข้างธุรกิจใหม่ “ผู้ปิดทองหลังพระ”

ด้วยคำเรียกขาน “คุณหมอสมเชาว์” จนติดปาก ทำให้ทุกคนรู้ว่า สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ NC GROUP มีอีกหนึ่งประสบการณ์คือ การเป็นคุณหมอ ที่ดูจะสวนทางกับหมวกอีกใบที่ผู้บริหารท่านนี้สวมอยู่ นั่นคือ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทชั้นนำในแวดวงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทว่า เป็นที่ทราบดีว่า คุณหมอสมเชาว์เดินหน้าขยายธุรกิจไปอีกหนึ่งกิจการ นั่นคือ Wellness Center เพื่อตอบรับกับเทรนด์ Aging Society ให้ทันการณ์

จนกระทั่งวันนี้ เราอยากพูดถึงอีกหนึ่งมิติที่ใครหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า CEO ท่านนี้ ได้ทำภารกิจเป็นผู้ “ปิดทองหลังพระ” มาอย่างยาวนาน ด้วยการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่มีความประพฤติดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคงธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ในปีการศึกษา 2563 มีนักศึกษาในโครงการรวมทั้งสิ้น 32 ราย จบการศึกษาไปแล้ว 23 ราย (สละสิทธิ์ เนื่องจากได้รับทุนจากที่อื่น จำนวน 1 ราย)

NCgroup มอบทุนการศึกษา

ในจำนวนนี้เป็นนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จำนวน 4 ทุน และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จำนวน 4 ทุน ทุนละ 10,000 บาทต่อภาคการศึกษา ทั้งนี้ เป็นการมอบทุนการศึกษาแบบให้เปล่า จนกระทั่งนักศึกษาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
คุณูปการที่ สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม หรือคุณหมอสมเชาว์ ทำนี้ จึงเป็นการสานต่อโอกาสสร้างว่าที่บุคลากรคุณภาพกลับคืนสู่ภาคอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง

ส่งต่อทุกโอกาสที่ได้รับ สร้างว่าที่บุคลากรคุณภาพ ผ่านการให้ทุนการศึกษาของ NC GROUP

สำหรับการมอบทุนการศึกษาของ NC GROUP นี้ คุณหมอสมเชาว์ ได้กล่าวถึงแนวคิดที่ทำให้ตัดสินใจมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาที่ มทร.ธัญบุรี ว่า

“จุดเริ่มต้นที่ทำให้สนใจเรื่องการมอบทุนการศึกษาให้กับนักศึกษา มทร.ธัญบุรี คือ ได้รับรู้ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ว่ามีเด็กนักศึกษาขายล็อตเตอรี่ และเรียนไปด้วย รวมถึงยังทำงานพิเศษเสริมอีกหลายอย่าง จึงได้ติดต่อสำนักข่าวเพื่อขอทราบที่อยู่ของเด็กคนดังกล่าว ทำให้ทราบว่าเด็กนักศึกษาเรียนที่ มทร.ธัญบุรี จึงได้ติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยเพื่อให้การสนับสนุน  มอบทุนการศึกษาเพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเด็กคนดังกล่าว”

จากนั้น คุณหมอสมเชาว์ ได้เล่าย้อนไปยังวัยเด็กว่า
“ผมเติบโตมาในครอบครัวคนจีน ที่อยู่ในระดับของชนชั้นกลาง คุณพ่อต้องทำงานหนักเพื่อสร้างรากฐานครอบครัวและในฐานะของลูกชายคนโต ซึ่งต้องเป็นที่คาดหวังของคุณพ่อที่จะให้มาช่วยแบ่งเบาภาระและช่วยดูแลน้องๆ ซึ่งมีอยู่ถึง 10 คน แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่อยากจะเรียนหนังสือ ผมเองได้สอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดม ทั้งที่คุณพ่อไม่เห็นด้วย ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะเป็นหมอ ประกอบกับที่ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งได้ช่วยพูดกับคุณพ่อให้  ทำให้มีคุณหมอสมเชาว์ในวันนี้
“ตั้งแต่วันนั้น ถึงวันนี้ ผมจึงมีความเข้าใจ และเห็นใจในความต้องการของเยาวชนที่ต้องการที่จะเรียนหนังสือแต่อาจขาดแคลนทุนทรัพย์ รวมถึงโอกาสในการศึกษาต่อ จึงต้องการสานต่อความฝันของเยาวชนเหล่านั้นซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องง่ายในการที่จะทำให้ความฝันเป็นจริงในสถานการณ์ที่ขาดแคลนทั้งโอกาสและ เงินที่จะสานต่อความฝันนั้นๆ”

หมอสมเชาว์

คุณหมอสมเชาว์ยังเล่าย้อนไปอีกว่า “ในสมัยที่เริ่มทำงานที่ NC Group แรกๆ ผมมีลูกน้องที่มีความสามารถ ขยัน อดทน มีสติปัญญาที่ดี แต่บุคลากรเหล่านั้น ขาดซึ่งโอกาสและทุนทรัพย์ในการศึกษาต่อ ซึ่งที่ผ่านมา NC ได้จัดให้มีโครงการทุนการศึกษาแก่พนักงานเพื่อเรียนต่อในระดับปริญญาตรี โดยการริเริ่มดังกล่าว ทำให้พนักงานที่มีความตั้งใจอยากพัฒนาตนเอง มีความขยันและกระตือรือล้นในการทำงานและเรียนต่อไปด้วยในขณะเดียวกัน จากโครงการดังกล่าวทำให้พนักงานของ NC สามารถทำงานและเรียนจบในระดับปริญญาตรีได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาบริษัท ให้เจริญก้าวหน้ามากยิ่งๆ ขึ้นไปจนถึงทุกวันนี้”
“อย่างไรก็ตาม ในการมอบทุนการศึกษาดังกล่าวบริษัท มิได้มอบทุนให้กับนักศึกษาเต็มจำนวนเพราะต้องการให้เยาวชนมีความมานะ พยายาม ขวนขวาย ช่วยเหลือตัวเองในระดับหนึ่ง รวมถึงให้รู้จักหารายได้ช่วยเหลือตนเองก่อน เพื่อสร้างวินัย และฝึกฝนความอดทนในกับเยาวชนดังกล่าว เพราะการทำงานจะทำให้เยาวชนได้ประสบการณ์ในการใช้ชีวิต มีโอกาสได้เรียนรู้จากการทำงานจริง ไม่ใช่แค่ทฤษฎีในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว รวมถึงเป็นการปลูกฝังให้เยาวชนเห็นคุณค่า และมีวินัยในการใช้เงินไปในเวลาเดียวกัน”

“สำหรับการคัดเลือกนักศึกษาที่จะได้รับทุน คุณหมอสมเชาว์ ได้เปิดโอกาสทางการศึกษาโดยให้ทางมหาวิทยาลัยคัดเลือกนักศึกษาที่ด้อยโอกาสและขาดแคลนทุนทรัพย์จริงๆ โดยตั้งคณะกรรมการคัดเลือกและส่งรายชื่อมาให้กับบริษัท รวมถึงเปิดโอกาสให้กลุ่มนักศึกษาที่ได้รับทุน เข้ามาฝึกงานกับทางบริษัท โดยไม่ได้บังคับแต่อย่างใด เนื่องจากเข้าใจในภาระ หน้าที่รวมถึงความจำเป็นในสถานการณ์ของเยาวชนแต่ละบุลคล ที่มีเงื่อนไขชีวิต รวมถึงภาระหน้าที่  ที่แตกต่างกันไป”

คุณหมอสมเชาว์กล่าวอีกว่า “ผมคาดหวังว่านักศึกษาที่ได้รับทุนการศึกษากลุ่มนี้ จะเติบโตเป็นบุคคลที่มีจิตสาธารณะ มีความคิดดี ทำดี รู้จักช่วยเหลือแบ่งปัน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเยาวชนที่ได้รับโอกาสเหล่านี้ จะประสบความสำเร็จในชีวิต หน้าที่การงาน โดยไม่ลืมที่จะส่งต่อโอกาสเมื่อพวกเค้ามีความสามารถในอนาคต โดยการส่งต่อโอกาสที่ได้รับนี้ให้กับผู้ด้อยโอกาสจากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสร้างสังคมไทยให้น่าอยู่ต่อไป”

ต่อยอดจากทุนการศึกษา สู่การมอบทุนจัดค่ายอาสา เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิตให้เยาวชน

ไม่ใช่แค่ทุนการศึกษาเท่านั้นที่คุณหมอสมเชาว์มอบให้กับนักศึกษา ของ มทร.ธัญบุรี แต่ทว่า คุณหมอนักธุรกิจท่านนี้ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างประสบการณ์ชีวิตให้กับกำลังของชาติอีกด้วย เพื่อให้เยาวชนได้มีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ของการเป็นผู้ให้ ผ่านค่ายอาสา อย่างที่ท่านเคยมีประสบการณ์เมื่อครั้งยังเป็นนิสิตแพทย์ ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมาแล้ว
คุณหมอสมเชาว์ กล่าวว่า “การสนับสนุนทุนในการจัดค่ายอาสา เริ่มต้นมาจากตัวคุณหมอเอง ที่ได้มีโอกาสไปร่วมกิจกรรมค่ายอาสาของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงที่ยังเป็นนักศึกษาแพทย์ เนื่องจากเป็นคนที่ชอบกิจกรรมเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว จึงเข้าร่วมในทุกกิจกรรมที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น รวมถึงได้มีโอกาสไปค่ายอาสาพัฒนาชนบท เพื่อเดินทางไปสร้างโรงเรียนในชนบทตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 ซึ่งเป็นโอกาสที่ทำให้ได้เรียนรู้การทำประโยชน์เพื่อสังคม”

นักศึกษาได้รับทุน

“โดยค่ายดังกล่าว นักศึกษาจะได้ไปนอนที่บ้านของชาวบ้าน ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับชาวบ้าน ทั้งการขุดดิน ตั้งเสา ตอกฝาบ้าน ทาสี ขุดหลุมส้วม ได้ใช้ชีวิตแบบที่ชาวบ้านอยู่จริงๆ ทำให้ได้รับรู้ถึงความยากลำบากที่ชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลได้รับ ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจ ให้ผมเมื่อเรียนจบแพทย์ ได้เลือกที่จะไปทำงานที่โรงพยาบาลที่ห่างไกล เช่น โรงพยาบาลที่จังหวัดขอนแก่น แทนที่จะเลือกทำงานอยู่ในเมืองหลวง เพราะได้รับรู้แล้วว่าโรงพยาบาลในต่างจังหวัดมีความต้องการแพทย์มากกว่าในเมืองใหญ่ๆ ที่เจริญแล้ว ”
“ต่อเนื่อง จากอุดมการณ์ สู่การช่วยสนับสนุนทุนในโครงการค่ายอาสา โดยหวังว่านิสิต นักศึกษาที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมจะได้ทำประโยชน์เพื่อสังคม และสานต่ออุดมการณ์ต่อไปในการใช้ชีวิตและการทำงานในอนาคตข้างหน้า โดยเน้นย้ำถึงนักศึกษาที่รับทุน NC เนื่องจากได้กำหนดคณะของผู้รับทุนว่าต้องมาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ และสถาปัตยกรรมศาสตร์  หากนักศึกษาเหล่านี้ได้มีโอกาสได้เรียนรู้ในโครงการค่ายอาสา หรือออกไปร่วมการทำค่ายด้วย จะยิ่งทำให้พวกเขาได้รับประชุมการที่ดี มีจิตใจที่เอื้ออาทรพร้อมที่จะส่งต่อความช่วยเหลือให้ผู้ที่ขาดและไม่พร้อม”

เปิดวิสัยทัศน์ สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กับการขยายธุรกิจใหม่ Wellness Center

นอกจากการบอกเล่าเรื่องราวรวมถึงภารกิจในการสนับสนุนการศึกษาที่ทำเคียงคู่กับการทำธุรกิจในแวดวงอสังหาริมทรัพย์แล้ว คุณหมอสมเชาว์ ยังได้อัปเดทถึงการขยายธุรกิจใหม่ล่าสุดของ NC GROUP ที่คาดว่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆ นี้ รวมถึงจะเป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งของบริษัท นั่นคือ ธุรกิจ Wellness Center

“สำหรับความเป็นมาของการเริ่มธุรกิจ Wellness Center ที่บริษัทดำเนินการอยู่นั้น เพราะผู้บริหารเล็งเห็นว่า ประเทศไยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้มีความต้องการด้านสถานที่ ที่จะดูแลผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไทยให้ดีขึ้น”
“ทั้งผู้สูงอายุที่เคยเจ็บป่วยมาก่อนและต้องการฟื้นฟูสุขภาพ ผู้ป่วยในระยะพักฟื้น หรือผู้ที่ยังมีอาการเจ็บป่วยอยู่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด และถูกต้อง เรามีผู้เชี่ยวชาญที่จะคอยดูแล ฟื้นฟูสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วย และผู้สูงอายุเหล่านั้นสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ได้ด้วยตนเอง ลดภาวะการพึ่งพิง โดยเรามีกระบวนการกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เหมาะสมกับโรคและวัย”
Wellness Center
“การเปิดศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ หรือ Intermediate care ในนาม บริษัท ศิริอรุณ เวลเนส จำกัด นี้เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายของผู้เข้ารับบริการ ภายหลังจากการประสบภาวะวิกฤตจากความเจ็บป่วย อุบัติเหตุหรือการผ่าตัด เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติมากที่สุดอีกครั้ง”
บริษัท ศิริอรุณ เวลเนส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทภายใต้ NC GROUP ทำหน้าที่ในการดูแลผู้สูงอายุและรองรับผู้ป่วยในระยะพักฟื้น ปัจจุบันมี 3 สาขา คือ กรุงเทพมหานคร 2 สาขา และ อุบลราชธานี 1 สาขา และยังมีแผนที่จะขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอีกเป็นระยะ ในการทำธุรกิจนี้ เราใส่ใจในมาตรฐานของบุคลากรเป็นสำคัญ เพื่อให้สามารถทำงานด้วยใจภายใต้แผนการให้บริการ 7 ด้าน หลักๆ ดังนี้
  1. ดูแลผู้อยู่ในระยะพักฟื้นภายหลังออกจากโรงพยาบาลทุกช่วงวัย เช่น หลังผ่าตัด, รอตรวจโรคเฉพาะทาง, รอพบแพทย์ตามนัด เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
  2. ดูแลผู้มีความผิดปกติทางสมองในระยะพักฟื้น เช่น อุบัติเหตุ, สมองเสื่อม, อัลไซเมอร์, เส้นเลือดในสมองตีบ ฯลฯ
  3. ดูแลผู้อยู่ในระยะพักฟื้นในระหว่างการรักษา เช่น โรคมะเร็ง, เบาหวาน, ความดัน
  4. ฟื้นฟูสุขภาพกาย และใจ ทุกช่วงวัย ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเป็นการเฉพาะ ตลอด 24 ชั่วโมง
  5. ดูแลผู้สูงอายุที่ต้องการ การดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นพิเศษ
  6. ดูแลผู้ที่สุขภาพดีแต่อยู่ในช่วงของการตรวจพิเศษ หรือรักษาเฉพาะทาง
  7. ดูแลผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือไม่มีโรคประจำตัวแต่มีอาการอ่อนเพลีย ต้องการการพักผ่อน โดยอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง (ไม่ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาล)

บริษัท ศิริอรุณ เวลเนส จำกัด

คุณหมอสมเชาว์ ได้กล่าวทิ้งท้าย ด้วยการย้ำเพิ่มเติมว่า “ พันธมิตรทางการแพทย์ของศิริอรุณแคร์ มีความเชี่ยวชาญ และมากด้วยประสบการณ์ในธุรกิจการแพทย์ (Wellness) พร้อมทั้งมีทีมสหสาขาวิชาชีพ อาทิ แพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด นักกิจกรรมบำบัด และพนักงานผู้ช่วยทางการแพทย์ ซึ่งผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติทุกคน โดยเราได้ตั้งปณิธานในการให้บริการว่า “ฟื้นฟูสุขภาพกายและใจ คืนความสดใส ให้คนสำคัญของคุณ”